วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข่าวด่วนกอท.เสรีไทย24มิย.59

*หลักฐานที่รู้กันมานานแล้วว่ารัชกาลที่9เป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกติดต่อกันมานานกว่า5ปีจากการรายงานของนิตยสารฟอฟ์ฟและเป็นเจ้าของโรงแรมดังระดับโลกเคมปินสกี้(Kempinski)ขณะนี้มีหลักฐานยืนยันแล้วว่าได้ตัดสินใจขายโรงแรมนี้ให้แก่นายกรัฐมนตรีบาห์เรนเจ้าชายคาลิฟะบินซาลแมน อัล คาลิฟา ซึ่งมีมูลค่าการขายกว่า40,000ล้านบาท

*ประเด็นที่ควรพิจารณาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่ยังไม่มีการพูดถึงเลยคือในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยกำลังตกต่ำและในหลวงกำลังใกล้สิ้นพระชนม์เช่นนี้มีประเด็นปัญหาที่น่าพิจารณาว่า

(1)จะมีการเสียภาษีเงินได้เข้ารัฐหรือไม่?
(2)เป็นการขายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของใครที่เป็นผู้บริหารจัดการเพราะเป็นช่วงเวลาที่ในหลวงรัชกาลที่9ในฐานะเจ้าของทรัพย์ไม่อยู่ในสภาพที่รับรู้ปัญหาได้และไม่อาจจะได้รับประโยชน์จากการขายดังกล่าว?
(3)เงินจำนวนนี้จะถูกซ่อนเก็บไว้ในที่ใด?ในประเทศหรือต่างประเทศ?และเป็นเรื่องที่คนไทยควรรู้เพราะการกระทำเช่นนี้สภาหรือรัฐบาลคสช.ที่อ้างว่ายืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนควรจะต้องวางกฎเกณฑ์และป้องกันไม่ให้มีการแอบอ้างในหลวงเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเองโดยมิชอบของคนในราชสำนักและเหตุการณ์เช่นนี้น่าจะเกิดขึ้นอีกโดยมีการปกปิดไม่ให้ประชาชนรู้

โปรดดูหลักฐานการติดต่อซื้อขายดังต่อไปนี้

*หลักฐานข่าวที่เฟชบุ๊คของคุณดวงจำปาสเปนเซอร์ไอเซนเบร์ก(Doungchampa Spencer-Isenberg)พร้อมภาพประกอบ https://goo.gl/nXferM

*เว็บไซต์ ZAWYA ของบริษัท Thomson Reuters (เครือเดียวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส)รายงานว่าพระมหากษัตริย์ไทยจะขายหุ้นโรงแรมเคมปินสกี้ให้กับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน,ตัวรายงานข่าว(ภาพประกอบแรก) ดูที่
http://goo.gl/Arouo0

*สำหรับการถือหุ้นเครือโรงแรมเคมปินสกี้ท่านสามารถหารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์เครือโรงแรมเคมปินสกี้ (https://www.kempinski.com/en/hotels/about-us/history/) หลักฐานยืนยันว่าในปี 2547(2004)พระมหากษัตริย์ของไทยได้เข้าถือหุ้นใหญ่ของเครือโรงแรมนี้ (ดูภาพประกอบที่สอง)

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข่าวด่วนพระอาการในหลวงตามแถลงการล่าสุด



*แถลงการฉบับ27ล่าสุดตามข่าวด่วน,บอกภาวะใกล้สิ้นพระชนม์เนื่องจากหัวใจใกล้หยุดเต้นแล้ว,และเป็นต้นเหตุที่ทำให้คสช.ฉวยโอกาสขยายอำนาจตัวเองออกไปด้วยการวางแผนเตรียมล้มประชามติโดยใช้กลยุทธใ้ห้ลูกสมุนผู้ตรวจการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ(ศาลตามสั่ง)ตีความ,พวกมันรู้ความจริงพระอาการก่อนแต่ปิดบังประชาชน,สื่อในประเทศก็แกล้งโง่ไม่กล้าวิเคราะห์,และนี้คือต้นข่าวที่จะมีรัฐประหารซ้อน,โปรดฟังการวิเคราะห์ของสส.สุนัยเมื่อวันจันทร์ที่6มิถุนายนรายการรู้เขารู้เราอีกครั้งหนึ่ง

*ข่าวกอท.เสรีไทย:7มิย.59
•สส.สุนัยเสนอให้จับประเด็นแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่26กับการส่งสัญญานยืดเวลาประชามติที่สื่อไทยไม่กล้าวิจารณ์และประวัติศาสตร์การเมือง
ตอนที่14"ยังเติร์กตุรกีเปลี่ยนระบอบ:ยังเติร์กไทยจะไปทางใหน?"
https://www.youtube.com/watch?v=KMqhladfyg8 
http://www.mediafire.com/download/dacqj588dasqnbk/

*ไทยรัฐจมูกไวได้กลิ่นเน่าคสช.ล้มประชามติโชย,บทวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่าผลจะแพ้ยับ,ฟันธงมีล้มโต๊ะ
http://www.thairath.co.th/content/632194

•และตรวจข่าวจากข่าวลับกรองแล้วเมื่อ2มิถุนายนนี้อีกครั้งหนึ่ง:โดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)เจาะลึกพระอาการตามแถลงการณ์ฉบับล่าสุด1มิถุนา59,พระอาการจริงเป็นเช่นไร?แล้วทำไมคณะแพทย์จึงต้องแถลงแล้วแถลงอีก?
http://goo.gl/hU16Vd

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข่าวลับกรองแล้ว 2 มิถุนายน2559 "แถลงพระอาการซ้ำซากยากที่จะลากไปถึงการเลือกตั้ง"



สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*ยินดีกับผู้รักประชาธิปไตยในอเมริกาที่จัดประชุมสมัชชาประชาชนครั้งที่2เมื่อ21พค.ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จแต่ต้องเขียนท้วงติงไว้เพื่อให้คสช.มันรู้ว่าจากผลการประชุมที่ได้จัดตั้งสถานีวิทยุชื่อ"เสียงประชาชนไทย"..ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่เกี่ยวกันกับ"กลุ่มเสียงประชาชนไทย"ที่เปิดตัวมานานนับ10ปีก่อนตั้งแต่หลังการรัฐประหาร19กันยา2549...และยังจะอยู่สู้กับเผด็จการศักดินาต่อไปโดยกระจายข่าวผ่านเวปประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนเวีย

*พระอาการป่วยปู่ภูมิพลเล่นเอาคนในวังหายใจไม่ทั่วท้องในแต่ละวัน ประยุทธ์ก็มีอาการคุ้มดีคุ้มร้ายคล้ายๆกับอาการคุณปู่ สถานการณ์ไทยจะลากไปถึง 7สิงหา วันประชามติ แล้วจะมีเลือกตั้งปีหน้าใหม?ไม่มีใครตอบได้เพราะอาการไข้คุณปู่เป็นตัวกำหนด...จากข่าวภายในสปท.ยืนยันว่าลากไปไม่ถึงแน่


*คณะหมอที่เคยแบ่งเป็นสองฝั่งระหว่างชุดเปรมสี่เสาที่ไม่ชอบให้รายงานบ่อยๆ กับชุดเสี่ยณ.เยอรมันที่ขยันจะรายงานบ่อยๆถึงวันใกล้ตะวันคล้อยก็พลอยเห็นตรงกันเพราะอันตรายจะตกอยู่กับหมอหากอยู่ๆคุณปู่จากไปทั้งๆที่โกหกไว้ว่าทั้งแข็งทั้งแรงอยู่ทุกวัน...การรายงานซ้ำซากสรุปความเจ็บป่วยประจำเดือนจึงเกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นครั้งแรกคือแถลงการณ์ฉบับที่26 "สรุปพระอาการระหว่างวันที่1-31พฤษภา"จึงเกิดขึ้นทั้งๆที่เฉพาะเดือนพฤษภาก็รายงานพระอาการติดๆกันถึง3ฉบับแล้วคือ23,24,25แต่พอพ้นเดือนพฤษภาได้1วันก็ดันรายงานสรุปทั้งเดือนพฤษภาอีกเป็นฉบับที่26ลงวันที่1มิถุนา...จะอะไรกันนักหนาชาวประชาจึงสงสัย...ก็ขอบอกข่าวภายในไว้ตรงนี้ว่าอาการปู่ใกล้ตายและหมอก็กลัวตัวจะตาย

*ไม่ต้องบอกก็ต้องคิดได้ถ้าไม่โง่เกินไปสำหรับไทยสลิ่ม...เพราะฉบับสุดท้ายก่อนถึงเดือนพฤษภาคือฉบับที่22แถลงเมื่อ8มีนา,เมษาทั้งเดือนไม่แถลง แต่ถึงพฤษภาแถลงแล้วแถลงอีกเหมือนกับรายงานผลบัญชีกำไรขาดทุนประจำเดือนของห้างสรรพสินค้าที่เถ้าแก่กำลังปวดหัวกับตัวเลขอย่างไงอย่างงั้นเลย

*นี่ก็ไม่ต้องบอกก็ต้องคิดได้ถ้าไม่โง่เกินไปสำหรับไทยสลิ่ม...จำวันแรกที่คุณปู่หวนกลับมาศิริราชอีกทีอย่างกระหึดกระหอบเมื่อปลายเดือนพฤษภาปีที่แล้วได้ใหม?ที่หมอบอกว่าไม่มีอะไรเป็นการกลับมาตรวจพระอาการตามปกติเดี๋ยวก็จะกลับหัวหิน...ปกติอะไร?จนถึงทุกวันนี้ได้แต่"กลับหัว"...ผ่านไปเป็นปีก็ไม่มีใครได้เห็นคุณปู่ออกมานั่งรถเข็นโชว์ทำท่าชมท่าน้ำอีกเลย555

*คุณปู่วันนี้ร่างกายทั้งระบบมีปัญหากินยาและอาหารไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนานแล้วแต่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกคืออาการบวมน้ำในสมอง(Hydrocephalusคล้ายกับเด็กหัวโตตามงานวัด)ต้องทำการผ่าตัดฝังท่อระบายน้ำจากสมองเข้าช่องท้องเป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายปีดูแถลงการณ์ฉบับที่13ปลายพฤษภาปีที่แล้วที่ต้องหวนกลับมาศิริราชก็เรื่องนี้ที่เคยทำไว้แล้วเกิดท่อตัน ตลอดปีก็ต้องประคับประคองเพราะผลของมันทำให้ปู่ปรากฎตัวและแสดงตัวเป็นศาสดาสอนใครไม่ได้อีกแล้ว,ที่เราเคยเห็นแต่ปู่ออกมาก็นั่งนิ่งๆเหมือนตุ๊กตาก็เพราะผลของมันทำให้เนื้อสมองตายและมีปริมาณการตายของสมองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,สติสัมปชัญะการวินิจฉัยใดๆทำไม่ได้มีอาการเบลอทั้งวัน,แต่เดิมเคยใช้วิธีการพะยักหน้าผ่านความเห็นแต่วันนี้หน้าก็พะยักไม่ได้เพราะเกิดอาการกระตุกที่หน้าอยู่ตลอดและติดตามมาด้วยอาการอาเจียรและเวียนหัว

*การรักษาอาการน้ำท่วมสมอง(อาจจะเป็นบาปที่สร้างสถานการณ์ปล่อยให้นำ้ท่วมประชาชนเพื่อล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์เมื่อปี2554)ต้องผ่าตัดรอบใหม่ก่อนมีแถลงการณ์ฉบับ26เกิดปัญหาความเห็นแบ่งเป็นสองฝ่ายคือต้องวางยาสลบแต่อีกฝ่ายกลัวว่าอาการคุณปู่อ่อนเปลี้ยเต็มทีด้วยความชราเกรงว่าสลบแล้วจะสลบไปเลยจึงจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดด้วยวิธีบล๊อกไขสันหลังแต่ความเก่งของหมอไทยแม้จะเก่งแต่ไม่กล้าเสี่ยงเพราะถ้าเดี้ยงตายคามือหมอไทยเห็นท่าจะต้องอพยพครอบครัวไปอยู่เมืองนอกทุกคนจึงเห็นตรงกันให้หมอฝรั่งผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกามาทำดีกว่าเพราะหากเป็นอะไรก็ทำอะไรหมออเมริกันเขาไม่ได้...แต่หมอเขาก็บอกให้คนในวังรู้ว่าทำอย่างนี้ก็อยู่ได้ชั่วคราวไม่นานท่อก็จะตันอีกและน่าจะผ่าอีกไม่ไหวแล้วเพราะการผ่าฝังท่อระบายน้ำจากสมองเข้าช่องท้องทำมาตั้งแต่2พฤษภาปี2554ประคองมาได้5ปีก็เต็มที่แล้วและยิ่งอาการอะหลั่ยหมดอายุทุกชิ้นส่วนเช่นอาการข้อเข่าก็อักเสบหมดทั้งสองข้างทั้งๆที่นอนเฉยๆเดินไม่ได้มานานแล้ว,มีอาการปวดท้องอยู่เสมอโดยหาสาเหตุไม่ได้,เสลดมากขับออกเหมือนคนธรรมดาไม่ได้เพราะปอดอ่อนแรงมาก,สรุปรวมความใกล้ตายจึงเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและระบบการหายใจหมอต้องดูแลใกล้ชิดตลอด24ชั่วโมง...คสช.น่าจะบอกความจริงประชาชนไปเลยว่าคุณปู่อยู่ห้องICUนานแล้ว

*น่าสงสารคุณปู่ใกล้ตายค่ารักษาพญาบาลกินอยู่ตึกพิเศษทั้งตึกก็ไม่ต้องจ่ายสักบาทแล้วจะหวงทรัพย์สินไว้ทำไมตายไปก็เอาไปไม่ได้,เก็บไว้ลูกมันก็แย่งกันจนบ้านเมืองจะบรรลัย,ปีนี้นิตยสารFOBBก็ยังค้างตำแหน่งกษัตริย์รวยล้นฟ้าที่1ของโลกไว้ให้ปู่ภูมิพลอยู่...แต่อยู่ๆก็มีเวปไซด์ดัง justrich.comจัดอันดับเจ้าหญิงรวยทั่วโลก,พระเจ้าหลานเธอเออติงต๊องศิริวัลวลีย์นักแบทมินตันนักขี่ม้านักเดินแฟชั่นดันติดอันดับรวยที่สุดในโลกอีกมีสินทรัพย์และเงินสดถึง35,000ล้านดอลล่าสหรัฐ,เอา35บาทคูณคุณเธอก็มีเป็นแสนล้านบาทในขณะชาวบ้านครึ่งค่อนปนะเทศจะหาเงินแสนบาทติดบ้านก็ยังไม่มี...ช่วยตอบคำถามหน่อยเถอะสลิ่มทั้งหลายเธอรวยจากอะไรถ้าไม่ใช่ครอบครัวของเธอขูดรีดเอามาจากประชาชนแล้วแบ่งกินแบ่งใช้กันในวัง

*ข่าวล่าสุดสนุกกันใหญ่เมื่อใกล้เปลี่ยนรัชกาลทุกคนก็ฝันหวานจะเลื่อนอันดับตั้งรหัสเลขสามตัวกันใหญ่,พระเจ้าหลานเธอองค์ภานานาพระกิ๊กออกวิ่งโชว์ก็เขียนเลขติดโคนแขนซ้ายว่า 908...เรียงลำดับมาจากปู่ภูมิพล 901จนถึงน้องถั่วจุฬาภรณ์ก็ 906 แล้วใครละ 907...ไขปัญหาตอบตรงนี้ก็โสมเกาหลียังไงเล่า,วันนี้แม่ลูกฝันหวานว่าเมื่อเสี่ยขึ้นเป็นรัชกาลที่10,เด็ดแม่จะกลับมาเป็นราชินีเลยมีกำลังใจลดความอ้วนจนหุ่นสะเลนเด้อ,ส่วนเสี่ยจะอยู่นานเท่าไรก็ไม่สนเพราะองค์ภานานากิ๊กจะถูกดันให้มาเตรียมเป็นรัชกาล11คอยไว้...ใครที่เคยวิเคราะห์ว่าฟ้าชายยอมแล้วให้อ้วนพุงโลขาถ่างเป็นร.10แล้วเสี่ยจะอยู่ใช้เงินสบายๆที่เยอรมันหรือเสี่ยเป็นแล้ววางมือให้น้องพุงโลว่าการแทนคงต้องเปลี่ยนแนวทางการวิเคราะห์ใหม่นะจ๊ะ เพราะสายในวังตั้งแต่ถีบศรีรัชมิ์ออกไปเขาก็จัดระบบใหม่เชียร์เสี่ยให้เป็นไร.10ประสานเสียงคสช.ถึงขนาดโสมเกาหลียอมอดอาหารผ่าตัดลดความอ้วนต้องเป็นเรื่องใหญ่จริงๆนะ...ป๋าเปรมต้องใช้ความพยายามต่อไป...แล้วพบกันใหม่//



ข่าวตาสว่างทางไกล 1/6/16




•สงสารคนไทยที่อยู่ในประเทศไม่มีโอกาสรู้ความจริงเรื่องในวังเพราะมีคุกตะรางคอยปิดหูปิดตาและต้องกราบบูชาคนที่สูบเลือดเนื้อของตัวเขาเองเพื่อนำไปเสพสุข:เด็กสาวไทยคนนี้ไม่เคยทำมาหากินเป็นชิ้นเป็นอันแต่เธอกลับเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกมีเงินสดและทรัพย์สินรวมมากกว่า35,000ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งถือว่ารวยมากกว่ามาร์คซักเคอร์เบิร์กเจ้าของเฟสบุ๊คเสียอีก,(ปู่ของเธอก็เป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกติดต่อกันนานกว่า5ปี)จากการจัดอันดับเจ้าหญิงที่รวยที่สุดในโลกของเวปไซด์ดังjustrich.com:คือเจ้าหญิงศิริวรรณวลีพระราชธิดาของสมเด็จพระบรมฯที่เกิดกับนางยุวธิดา
link http://justrichest.com/top-10-richest-princesses-in-the-world/5/


•แปลกแต่จริง:คนอังกฤษมีเสรีภาพที่จะวิจารย์กษัตริย์และราชวงศ์ของเขาแต่สถาบันกษัตริย์อังกฤษกลับยิ่งมั่นคง,สื่ออังกฤษตีแผ่เจ้าฟ้าชายชาร์ลเป็นเกย์