วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวถึงพวกฝุ่นใต้ตีนที่อยากเกิดเป็นขี้ข้ารองบาททุกชาติไปโปรดศึกษาเส้นทาง'หมอหยอง'


*หมอหยองเป็นหมอดูที่อ้างว่าติดต่อสายตรงกับเทวดาได้และอยู่รับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระบรมฯมานานแล้วตั้งแต่พระบรมฯยังหนุ่มๆก็มีข่าวว่าถูกเตะเพราะไปทำนายเรื่องราวที่ไม่ถูกอารมเข้า,ข่าวหมอหยองที่ตามเสด็จใกล้ชิดก็พึ่งจะมีข่าวออกสู่สายตาชาวเนตมาไม่นาน,หลังจากที่สมเด็จพระบรมทรงพระถีบศรีรัศมิ์ให้พ้นวงจรไปก็มีข่าวของหมอหยองขยับเข้ามาใกล้ชิดสู่สายตาคนทั่วไปจากเฟสบุคหมอหยองที่ลงข่าวจุ๋มจิ๋มน่ารักของพระบรมกับองค์ทีปังกรหลายคลิปที่ใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่ในเยอรมัน,เมื่อเห็นจากมุมกล้องก็รู้ทันทีว่านักแสดงพ่อลูกอนุญาติให้ถ่ายและตั้งใจแสดงพร้อมใช้กล้องหลายตัวในการถ่ายทำ(ข้อมูลส่วนนี้สอดคล้องกับข่าวเร็ดรอดออกจากวังว่าทีมตำรวจ+หมอหยองคือชุดที่ทำลายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ พระญาติศรีรัศมิ์วรชายาและพี่ๆน้องๆพ่อแม่ทั้งหมด)และมีหลักฐานยืนยันหมอหยองอยู่ในทีมงานใกล้ชิดข้างพระบรรทมฟ้าชายที่ช่วยทำงานโฆษณาภาพลักษณ์ฟ้าชายเพื่อเตรียมขึ้นเป็นรัชกาลที่10ด้วยโปรเจคยักษ์ไบค์ฟอร์มัม(ปรากฏตามรูปความสนิทสนมกับทีมงาน)







*ความใกล้ชิดพระบรมฯจึงทำให้พลเอกประวิทและประยุทธ์เกรงใจและยิ่งไว้วางใจให้เป็นตัวแทนผู้ประสานงานปั่นเพื่อแม่ด้วยก็ทำให้มีโอกาสใกล้ชิดอำนาจการเมืองมากยิ่งขึ้นถึงขนาดถ่ายรูปออกเผยแพร่







*โดยปกติคนที่อยู่ใกล้ชิดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็จะมีภาวะไม่เต็มบาทเสียส่วนใหญ่เพราะครอบครัวนี้มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ประหลาดๆถึงขั้นเรียกได้ว่าบ้าทุกคนและมีนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างไร้เหตุผลความเป็นมนุษย์ดังนั้นคนที่อยู่รับใช้ใกล้ชิดมี3ประเภท  1.เป็นคนบ้าไสยศาสตร์ไปกับเขาด้วย 2.กึ่งบ้า 3.แกล้งบ้าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ สำหรับหมอหยองอยู่ประเภทที่1.และเป็นต้นเหตุที่ต้องถูกกล้อนผมประจานและติดคุก


*ความเป็นคนไม่เต็มบาทของหมอหยองจึงกุมอารมนิสัยของคนในวังไม่ได้เพราะตัวเองเชื่อว่าพวกนี้เป็นเทวดามาเกิดบนโลก,ทุกคนในครอบครัวนี้แม้แต่พระเทพคือชอบเงินโดยให้บริวารไปจัดหามาให้ด้วยวิธีต่างๆแต่ห้ามเอาชื่อไปอ้าง(เป็นเรื่องที่ขัดแย้งอย่างยิ่งที่ต้องไปหาเงินถวายแต่ห้ามอ้างอิง!!)และที่สำคัญต้องไม่ให้มีเสียงสะท้อนกลับมาว่าเอาชื่อราชวงศ์ไปหากินเพราะทุกพระองค์จะโกรธมากถ้าได้ยิน,ความเว่อของหมอหยองจึงปรากฎอีกครั้งในโครงการไบค์ฟอร์แดดหรือปั่นเพื่อพ่อเมื่อไปให้ข่าวต่อสื่อมวลชนแบบล้ำเส้นจนมีข่าวซุบซิบออกมาว่าภายในสำนักพระราชวังยังไม่อนุมัติงานและขี้ข้าทุกคนในวังก็จะแบ่งเป็นหลายกลุ่มและคอยทำลายกันเป็นปกติเรียกว่าใครพลาดมีสิทธิตายทันทีเรื่องถีบจักรยานจึงกลายเป็นเรื่อง'ถูกถีบ'โดยถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์




*ประเด็นความไม่เต็มบาทจึงถลำเข้าไปอยู่ระหว่างเขาควายที่กำลังชนกันเรื่องอุทยานราชภักดิ์ระหว่างควายอุดมเดชอดีตผบ.ทบ.กับควายธีรชัยผบ.ทบ.ปัจจุบัน ที่เป็นที่ชัดแจ้งว่าอุดมเดชได้เงินทอนไม่น้อยเพราะตั้งงบประมาณก่อสร้างแล้วดันไปเปิดเรี่ยไรรับบริจาคจากพ่อค้าทั้งรีดไถในช่อง5อีก(คล้ายๆกับเรื่องงานศพสมเด็จเกี่ยวรักษาการสังฆราชตั้งงบประมาณจากภาษีซื้อข้าวของแต่เจ้าอาวาสกลับใช้เงินบริจาคมาใช้แทน)หมอหยองจึงมีหลักฐานหลายชิ้นเข้าปิ้งและความขัดแย้งในกองทัพเขากำลังจะกวาดล้างกัน,ด้วยความไม่เต็มบาทชอบยศศักดิ์และเงินจึงต้องสังเวยเสรีภาพด้วยหลักฐานมีส่วนร่วมจากการออกช่อง5เรี่ยไรและเรื่องอื่นที่แหล่งข่าวรายงานว่าทำให้ทรงพิโรธมากจากเรื่องที่ใช้มือเสี่ยลงโทษกลุ่มขี้ข้าที่ขัดผลประโยชน์กันในวัง




*พวกคสช.รับใช้วังเป็นประเภท3.คือแกล้งบ้า,จึงรู้ทางเลี่ยงและฉลาดที่จะวางหมากป้องกันตัวและวางหมากให้วังต้องพึ่งพาฆ่าตัวเองไม่ได้จึงต้องการค่าตอบแทนสูงเพราะต้องอดทนแกล้งบ้าไปกับวัง,วันนี้เมื่อพวกเขาได้ถืออำนาจแลัวจึงปล่อยให้พี่กับน้องสาวขัดแย้งกันไปเรื่อยๆส่วนพวกมันก็ตีกินปล้นอำนาจประชาชนโดยวังก็พอใจเพราะมันทำตามใจบ้าๆได้เต็มที่เช่นจับหมอหยองและพวกให้แบบผิดกฎมายโดยออกหมายจับภายหลัง,จับเข้าค่ายทหารซ้อมข่มขู่บีบบังคับจับกล้อนผมทั้งๆที่ละเมิดกฎหมาย(แต่ให้สะใจอารมโกรธของคนในครอบครัวนี้)และศาลก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความผิดกฎหมายที่คสช.ทำขึ้น,นี้คือปัญหาของประเทศที่กลายเป็นการย้อนกลับของสายน้ำที่ผิดธรรมชาติที่สุด..จึงเกิดข่าวการทรมารองครักษ์ที่เป็นเหยื่ออารมถึงตายแล้วอำพรางคดีโดยคสช.ไม่สนใจความถูกต้องใดๆเลย






บรรดาผู้ที่ตั้งใจโง่ขอเป้นฝุ่นใต้ตีนก็ต้องเรียนรู้เองว่าอยากเป็นคนรับใช้ใกล้ตีนประเภทใหน?แต่ถ้าพลาดก็มีสิทธิตายแม้แต่นายกทั้งเลือกตั้งและนายกปล้นอำนาจมีสิทธิตายได้ทั้งนั้นและตายให้เห็นกันมาแล้ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น