วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวลับกรองแล้ว 1 พฤศจิกายน 2558 "หมอหยอง:วังไทยเครื่องในเน่ายังจะเอากันตายอีกหลายตลบ"


สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.) http://thaiscandemo.blogspot.com/


*ทำไมหมอหยองและทีมงานจึงถูกกวาดล้างอย่างหฤโหด? ใครเป็นคนทำ? และทำไมจึงต้องทำอย่างนี้?...ไม่ต้องถามเพราะคนที่ทำไม่บอกและก็บอกแล้วว่าห้ามถาม!!เพราะเป็นเรื่องของมือที่มองไม่เห็นที่มีหลายมือ...คำตอบมีเพียงว่า"วังไทยเครื่องในเน่ายังจะเอากันตายอีกหลายตลบ"แต่ก่อนจะถึงมือที่มองไม่เห็นในฐานะคนสั่งการจะตายชาวบ้านทั้งเหลืองทั้งแดงจะต้องตายกันก่อนอย่างที่เห็น


*นามสกุล "วารุณประภา" ก็ไม่ใช่เล็กๆแต่ก็ต้องไปรับศพ พ.ต.ต.ปรากรม คนในครอบครัวอย่างโศรกเศร้าและห้ามทุกคนในครอบครัวพูดในเงื่อนไขต้องรีบเอาไปเผาทันทีจึงจะรับไปได้,ส่วนศพพลตรีพิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุทธยา ในฐานะราชองครักษณ์ใกล้ชิด,เห็นนามสกุลก็รู้เป็นสายพันธุ์เจ้าเหลืองก็ยิ่งหนักใหญ่,อ้างว่าฆ่าตัวตายเอง,อย่าว่าแต่ไม่มีใครในครอบครัวที่จะกล้าพูดแม้แต่ข่าวหนังสือพิมพ์ที่เป็นทางการก็ไม่ให้ลงทั้งๆที่ยศและตำแหน่ง,เครื่องราช,สายสกุลต้องได้รับพระราชทานเพลิงศพก็ต้องเผากันอย่างเงียบๆ


*ใกล้ครบรอบปีการกระโดดตึกตายในค่ายทหาร(ตามข่าว)ของพ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ยศสูงระดับผบก.1กองปราบสายตรงของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน2557ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่จับนายแต่ลูกน้องก็ต้องไปกระโดดตึกตายทันทีและก็นำไปเผาในวันนั้นทันทีสูตรเดียวกันกับพ.ต.ต.ปรากรมคือญาติๆไม่กล้าถามและไม่กล้าสงสัย


*ตาสว่างกันหรือยังเสื้อเหลืองเพื่อนหมอหยองและเพื่อนปรากรม?...ยังอยากจะตายตามไปรับใช้เจ้าในชาติหน้ากันอีกใหม?

*สำหรับเสื้อแดงชัดแล้วต้องเปลี่ยนระบอบเท่านั้นชีวิตคนไทยจึงจะดีขึ้น...เสื้อเหลืองส่วนหนึ่งคงตาสว่างแต่อีกส่วนยังแกล้งโง่แต่คงแกล้งโง่ได้อีกไม่นานก็ต้องเห็นความจริงว่าในครอบครัวอลเวงนี้เลวทุกคน"เห็นประชาชนผู้เสียภาษีเลี้ยงตัวเองเป็นข้าทาส"...เห็นข้าทาสที่รับใช้ใกล้ชิดเป็นมดปลวก...ใช้ให้ไปหาเงินมาถวายมีปัญหาก็ฆ่าทิ้ง...แม้แต่คนที่เข้ามาเป็นเมียเป็นผัวก็ไม่เว้นวันนี้ศพหมอเก้งผัวจุฬาภรณ์ยังหาทรากไม่เจอแต่ก็ช่วยกันตอแหลด้วยจงรักภักดีว่า"ยังไม่ตายบวชพระอยู่ที่นั่นอยู่ที่นี่!!"แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยมีข่าวจริงรอดมาให้เห็นเลย

*ถ้าไม่รู้ว่าเขาหาเงินกันอย่างไรให้พลิกไปอ่านข่าวลับกรองแล้วเมื่อ 1ธันวาคม2557 สปท.เคยจำแนกไว้แล้ว(กดลิ้งดูใหม่ยังทันสมัย)
-------------
ข่าวลับกรองแล้ว 1 ธันวาคม 2557

http://thainewstip.blogspot.com/2014/12/1-2557.html

-------------

*สปท.บอกให้เอาบุญสำหรับทหารตำรวจเหลืองที่ยังหน้ามืดตาบอดต้องการจะรับใช้หาเงินถวายแล้วไม่ต้องตาย,แบบนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตคือ(1)หาส่งส่วยตามระบบคือเก็บส่วยหวย,บ่อน,ซ่องกระหรี่จากสถานีตำรวจระดับอำเภอส่งขึ้นจังหวัด,ภาค,จนถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วผบ.ตร.,ผบ.ชน.นำขึ้นถวายทุกพระองค์(หากมีการโกงกันบ้างในเส้นสายข่าวรั่วบ้างแต่ไม่ถึงคนรับสูงสุดก็ไม่เป็นไร)และท่านทุกพระองค์ก็จะช่วยคุ้มครองให้ทุกคนที่ช่วยเก็บส่วยถวายได้มีอยู่มีกินอิ่มหนำสำราญแบ่งส่วนกันไปด้วยการไม่อนุญาติให้ทุกรัฐบาลนำหวยใต้ดินขึ้นบนดินและไม่อนุญาติให้เปิดบ่อนคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายเหมือนประเทศทั่วไปเพราะจะทำให้ทุกคนขาดรายได้(เจ้ามือหวยขนาดเล็กตามอำเภอต้องจ่ายมือละ30,000-50,000บาทต่อเดือน,ส่วนมือใหญ่ต้องแสนขึ้นอำเภอหนึ่งมีเจ้ามือ5-8ราย)/(2)จัดตีกอล์ฟ,จัดกีฬาต่างๆรายได้ถวายเป็นพระราชกุศล (3)พ่อค้านายทุนแบ่งกำไรที่ตราครุฑหน้าบริษัทช่วยให้เสียภาษีน้อยลงก็จะนำเงินไปถวายแล้วก็ได้ออกข่าวทีวีสองทุ่ม

*การหาเงินที่เป็นอันตรายและต้องระวังและตายมาหลายคนแล้วคือการจัดหาเงินเพียงต่อเดียวแล้วทูลเกล้าถวายเลยเพราะตรวจสอบการอมและเกิดการระแวงได้ง่าย,ก่อนหน้านี้ก็มีตายเซ่นสังเวยให้เห็นแล้วเช่นนายประเสริฐ วงศ์ลาวัลย์ ทั้งๆที่หนีไปบวชแล้วก็ถูกสังหารในผ้าเหลืองทิ้งศพไว้ที่จังหวัดชัยนาทเมื่อ 18 กันยายน 2552(ถามอากู๋เกิลดูได้)หรือล่าสุดการตายของ'เสี่ยอู๊ด'นายสิทธิกร บุญฉิม นักสร้างพระคนดังที่มีผลงานล่าสุดคือสร้าง'พระสมเด็จเหนือหัว'ขายทุกส่วนราชการและทุกรัฐวิสาหกิจ,ก็ต้องติดคุกสังเวยแบบเดียวกับหมอหยองเพราะอมหัวคิวมากไปแต่ถวายทูลเกล้าน้อยและสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตอย่างมีปริศนา(หลังออกจากคุก)ในโรงแรมที่จังหวัดพิษณุโลก,หรือแม้แต่ท่านผู้หญิงวิริยา ที่จัดหาเงินถวายเป็นประจำตามสั่งก็ถูกขับไล่ไม่ให้เข้าวังเมื่อไม่พอพระทัยและระแวงตามคำเพ็ดทูลของขี้ข้าด้วยกันเป็นต้น,การหาเงินที่รับจากผู้จ่ายสายตรงต่อเดียวถึงผู้รับเลยนี้อันตรายมากถ้าพลาดหรือผิดอารมณ์เป็นตายหรือติดคุกมืดอย่างทรมานดังเช่นหมอหยองและพรรคพวกวันนี้(แต่สำหรับผู้ที่มีเกราะคุ้มกันชั้นท่านผู้หญิงหรือวรชายาก็อาจจะรอด)

*วิธีหาเงิน"แนวพระราชนิยม"ที่ทำกันทุกคนในครอบครัวอลเวงคือตั้งมูลนิธิสารพัดมูลนิธิเพื่อทำการค้าและรับเงิน(บีบ)บริจาคเพื่อการกุศล(บังหน้า)และการจัดโครงการกิจกรรมตามพระราชประสงค์ซึ่งลักษณะนี้กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาไพร่,หมอดูและพวกทรงเจ้าเข้าผีที่เห็นช่องทางเพราะบรรดามรว.,มล.เชื้อพระวงศ์ทั้งหลายส่วนมากจะหน้าบางไม่กล้าเข้าพบเพื่อตบทรัพย์บรรดาเจ้าสัว,ดังนั้นวันนี้รอบๆทุกพระองค์แม้แต่เทพถ่างในส่วนงานหาเงินขึ้นทูลเกล้าก็จะมีพวกนามสกุลไพร่เปลี่ยนใหม่ดึงกันเป็นสายเข้ามารับใช้ใต้เบื้องยุคลบาทเป็นแถวเป็นทิวซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นละครสมบทบาทตามแต่พระทัยประสงค์(สอพลอ)ถึงขนาดประทับทรงได้ทุกรัชกาล(รัชกาลที่9ถ้าไม่มีการกวาดล้างหมอผีความงมงายคงได้ประทับทรงเร็วๆนี้)

*ก่อนหมอหยองจะโด่งดังถึงขนาดเจ้าสัวซีพีและเบียร์ช้างต้องเอาเงินไปถวายผ่านพร้อมกราบไหว้หมอหยองต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ว่าที่รัชกาลที่10 ก็หากินรับงานประทับทรงตั้งศาลพระพรม,ดูฮวงจุ้ยทั้งในไทยและอาเซี่ยนแม้แต่บริษัทกาแฟดาวเรืองในลาวยังเคยพึ่งบารมี'เทพหยอง',เมื่อไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆถึงขั้นหมอบคลานปัดละอองธุรีที่พระเกือกฟ้าชายได้,มีหรือที่ตำรวจทหารจะไม่หวังพึ่งเทพหยองในการถวายเงินเพื่อเลื่อนยศ

*หมดหมอหยองยังมีอีกหลายหมอทั้งที่อยู่รอบตัวทุกพระองค์และพร้อมจะเดินเข้าไปตายใหม่ๆอีกเพราะความหอมของผลประโยชน์และอำนาจที่อบอวลอยู่ในวัง,และยิ่งได้นายกฯโง่ๆแบบประยุทธ์ที่พร้อมจะปิดประเทศเพื่อปกป้องครอบครัวอลเองก็ยิ่งเป็นหลักประกันในผลประโยชน์ของพวกไพร่ที่สอพลอเพราะหมายถึงเม็ดเงินงบประมาณจำนวนมากที่คสช.จะประเคนไปให้วังเพื่อทำโครงการเหลวไหลต่างๆซึ่งแม้จะเสี่ยงภัยแต่กำไรสูงจึงจูงใจมาก


*อำนาจมาก,ผลประโยชน์มาก,งมงายมากและห้ามตรวจสอบจากสาธารณะคือลักษณะพิเศษของวังไทยซึ่งเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งของแต่ละวังของทุกคนในครอบครัวอลเวงรวมทั้งขี้ข้าที่ต่างวังก็ทะเลาะกัน...รายงานข่าวจากชั้นในว่า..จะมีใบปลิวบัตรสนเท่ห์ของขี้ข้าที่ด่าแทนนายและด่ากันเองว่อนข้ามวังกันทุกวันดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเหตุที่ผิดปกติเช่นการจับกุมและสังหารโหดในราชสำนักซึ่งได้กลายเป็นตัวเร่งให้ประชาชนต่าสว่างอย่างรวดเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ
*ทำไมต้องสังหาร?...เพราะรู้เรื่องเน่าๆในวังมากและเคยไว้วางใจให้ไปทำเรื่องเน่าๆนั้นด้วยเมื่อเกิดปัญหาเจ้าไม่พอใจจะต้องดำเนินคดีก็กลัวว่าพวกนี้จะปากสว่างแล้วไปทำให้ประชาชนตาสว่าง


*เกิดการรัฐประหารเพื่อราชสำนักไม่ถึง6เดือนก็เกิดการกวาดล้างในราชสำนักกรณีศรีรัศมิ์-พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ จนถึง นายบุญธรรม บุญเทพประทาน(ป๋าชื่นไพร่คนดังย่านพระราม9)ต้องติดคุกคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาเทพประทานอ.ปากช่องและพ่วง112ด้วยคงจำกันได้,พอเริ่มขึ้นปีที่2ของคสช.ก็เกิดคดีไพร่หมอหยองและพวกขึ้นอีก...อย่างนี้คสช.จะตอบคำถามสังคมอย่างไรเพราะการรัฐประหารไม่ได้ทำให้ราชสำนักมั่นคงขึ้นเลย

*นับแต่นี้ไปเรื่องเน่าที่หลากหลายแนวจะปรากฎขึ้นเรื่อยๆเพราะการแตกร้าวในวังใกล้ถึงจุดแตกหักและยิ่งคสช.ใช้อำนาจเถื่อนโดยให้ทหารมือสังหารเข้าไปจัดการกับผู้ต้องหาตามความประสงค์ของราชสำนักโดยผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างป่าเถื่อนทั้งตำรวจ,ศาลและทหารร่วมมือกันหมดต่างประเทศก็ยิ่งต่อต้าน,ราชสำนักก็จะยิ่งพังทะลายเพราะกลายเป็นเป้าหมายการโจมตีของนานาชาติ,และเมื่อประธานใหญ่ใกล้สิ้นใจนับแต่นี้เหตุการณ์ต่างๆก็จะถาโถมมากยิ่งขึ้น...ภาวะอาการป่วยที่รักษาไม่ได้เช่นนี้หมอไทยแผนโบราณวินิจฉัยโรคว่าเป็นโรคน้ำเหลืองเสียเครื่องในเน่าจะมีอาการผุผองเกิดขึ้นตามร่างกายเรื่อยๆจนเน่าตายไป...แต่อีกไม่นานมันจะพุผองที่ตาทั้งสองข้างวันนั้นก็จะเห็นคนชั้นสูงสูงตายและติดตะรางกันแทนไพร่กันบ้างซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่มากับการรัฐประหารซ้อนในภาวะที่มีวิกฤติการตายของกษัตริย์ภูมิพล...อีกไม่นานอีกไม่นาน!!

*ข่าวหมอหยองนอกจากจะเป็นอันตรายต่อราชสำนักแต่ก็มีผลดีคือทำให้เปลี่ยนความสนใจลืมเรื่องของประธานคณะกรรมการงมงายแห่งชาติที่นอนหมดสภาพอยู่ที่ศิริราชชั้น16ไปได้ชั่วครู่ใหญ่ๆ...แต่สปท.ไม่เคยลืมเพราะหัวใจของวิกฤติอยู่ที่นั่นและทันทีที่เป่าแตรสังเพลงธรณีกรรแสงจะเห็นการเปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่ายกันยุ่งเหยิงอินุงตุงนังกันในวันนั้น,การจัดขั้วอำนาจใหม่ใครจะฟัดใครจะหนักหน่วงกว่าที่ฟัดพงศ์พัฒน์กับหมอหยองและปรากรมกันในวันนี้
*ข่าวล่าสุดคุณลุงหมดสภาพแล้วความจำเหลือไม่ถึง10%การลงนามไม่ต้องพูดถึงทำไม่ได้มานานแล้ว,ปรับครม.รอบใหม่ยังจะจับลุงมาตั้งแล้วลืมตาได้หรือไม่ยังเป็นปัญหามาก,ประยุทธ์ประวิทรู้ดีจึงเกิดอาการหงุดหงิดในสภาโดยตีนักการเมืองในสภากระทบทักษิณถึงขั้นขู่จะปิดประเทศเพราะ คสช.ใกล้ชะตาขาดตามชะตาคิง,มีทางเดีที่คสช.จะรอดคือหาเหตุเพื่อจะสืบอำนาจต่อไปด้วยหวังว่าเผื่อจะเกิดช่องลอดทางสว่างที่หวังอย่างลมๆแร้งๆ

*สมคิดรองนายกคงสมประสงค์ที่จะไม่ถูกปลดออกแม้แก้วิกฤติเศรษฐกิจไม่ได้เพราะการโปรดเกล้าเข้าเฝ้าของครม.ใหม่ยากกว่าการแก้วิกฤติเศรษฐกิจเสียอีก


*วิกฤติอาการป่วยของคุณลุงทำให้คณะหมอผู้ถวายการรักษาแบ่งออกเป็น2ฝ่ายตามสายทายาท,สายหนึ่งเกาะนโยบายเทพถ่างบ่างเปรมด้วยพยามยามไม่ให้ออกแถลงการณ์อาการป่วยถ้าจำเป็นต้องมีแถลงการณ์ก็มีให้น้อยที่สุดเพื่อดึงไม่ให้เกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินในเวลาอันใกล้นี้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย/อีกสายหนึ่งเกาะนโยบายเสี่ยโดยต้องการให้มีแถลงการณ์รายงานอาการป่วยเป็นระยะตามปกติโดยไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการยื้อการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน

*สายแรกเป็นคณะแพทย์ที่ไม่ปรากฎตัวแต่สายหลังปรากฎตัวชอบเข็นรถและสายนี้จะรายงานสายตรงไปเยอรมัน

*พบกันใหม่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายไม่หยุดหย่อนของวังที่คสช.ก็ต้องระวังและการแก้วิกฤติเศรษฐกิจของสมคิดก็ต้องพัง

---------จบ----------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น